วิธีดูแลรักษาที่นอนพับของคุณ

การดูแลที่นอนพับอย่างถูกต้องจะทำให้ที่นอนสบายและทนทาน หากไม่ดูแลรักษา ที่นอนอาจเสียรูปทรงและรองรับน้ำหนักได้ การจัดเก็บที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดความเสียหาย ในขณะที่การทำความสะอาดและการระบายอากาศเป็นประจำจะช่วยป้องกันฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณนอนหลับสบายและรองรับน้ำหนักได้ดี

วิธียืดอายุการใช้งานของที่นอนพับของคุณ

เก็บที่นอนไว้ในที่แห้งและเย็น เก็บไว้ให้ห่างจากพื้น และใช้แผ่นรองเพื่อป้องกันการหกและคราบเปื้อน พลิกที่นอนเป็นประจำ หลีกเลี่ยงสิ่งของหนักและการกระโดด และอย่ากดทับมากเกินไป ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้ที่นอนมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

ปกป้องด้วยผ้าคลุมที่นอน

ลงทุนซื้อผ้าคลุมที่นอนคุณภาพดีตั้งแต่วันแรกเพื่อป้องกันการหกเลอะ ฝุ่น สิ่งสกปรก และสารก่อภูมิแพ้ เช่น เชื้อราและไรฝุ่น ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นและช่วยรักษาสภาพของที่นอน

ให้สัตว์เลี้ยงอยู่ห่างจากเตียงของคุณ

ให้สัตว์เลี้ยงมีเตียงของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งสกปรกภายนอก การผลัดขน และน้ำลายไหลบนที่นอนของคุณ หากไม่มีผ้าคลุมที่นอนก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้

การหมุนที่นอนของคุณ

เพื่อป้องกันการหย่อนคล้อยและการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ ให้หมุนที่นอนของคุณเป็นประจำ ที่นอนโฟม ยาง และสปริงแบบใหม่ควรหมุนทุกๆ 6-12 เดือน ในขณะที่ที่นอนสปริงรุ่นเก่าควรหมุนทุกๆ 2-6 เดือน ที่นอนบางประเภท เช่น ที่นอนที่มีการออกแบบแบ่งโซน ไม่ควรหมุนที่นอนรุ่นใหม่ที่มีด้านบนที่นุ่มกว่าและด้านล่างที่แน่นกว่าไม่ควรพลิกกลับแต่ยังคงต้องหมุนอยู่ดี ตรวจสอบคำแนะนำของผู้ผลิตเสมอสำหรับการดูแลรักษาที่เหมาะสม

การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนของคุณ

ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้งเพื่อขจัดเหงื่อ น้ำมัน สิ่งสกปรก และสารก่อภูมิแพ้ ควรซักปลอกผ้านวมเดือนละครั้ง ซักผ้าห่มทุก 2-3 เดือน และซักไส้หมอนทุก 4-6 เดือน ปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลรักษาของผู้ผลิต

เคล็ดลับในการดูแลรักษาที่นอนพับได้

• ลงทุนซื้อผ้ารองกันเปื้อนที่นอนคุณภาพดี: ผ้ารองกันเปื้อนกันน้ำและกันฝุ่นจะช่วยปกป้องที่นอนจากสารก่อภูมิแพ้และจุลินทรีย์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของที่นอน ผ้ารองกันเปื้อนที่นอนกันน้ำที่ผสมเจลว่านหางจระเข้ Flo ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
• ป้องกันแมลงบนเตียง: แมลงบนเตียงสามารถทำลายที่นอนและทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ให้ใช้ผ้ารองกันเปื้อนที่ป้องกันแมลงบนเตียงและหลีกเลี่ยงที่นอนที่ติดเชื้อ ที่นอนยางพาราสามารถป้องกันแมลงบนเตียงได้ตามธรรมชาติเนื่องจากมีโครงสร้างที่หนาแน่นกว่า
• การสัมผัสแสงแดด: วางที่นอนไว้กลางแดดเป็นครั้งคราวเพื่อกำจัดความชื้นที่ติดค้างอยู่และป้องกันไรฝุ่น

วิธีดูแลที่นอนพับได้บนพื้น

• รักษาพื้นให้สะอาดเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก
• ระบายอากาศในที่นอนเป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นและเชื้อรา
• วางที่นอนบนพื้นผิวเรียบที่ขัดแล้ว ไม่ใช่พรม
• ใช้แผ่นรองที่นอนและเลือกแบบที่มีคุณสมบัติป้องกันการหย่อนคล้อยและมีการรับประกัน
• InstaBed เป็นตัวเลือกพกพาที่ดี แต่ไม่แนะนำให้ใช้ทุกวัน

เมื่อใดจึงควรเปลี่ยนที่นอนที่พับไว้: สัญญาณที่ต้องสังเกต

• การหย่อนหรือรอยบุ๋ม: รอยบุ๋มหรือบริเวณที่ไม่เรียบที่มองเห็นได้บ่งชี้ถึงการสูญเสียการรองรับ
• ความสบายที่ลดลง: ก้อน จุดที่ไม่สม่ำเสมอ หรือเบาะรองนั่งที่ลดลงอาจรบกวนคุณภาพการนอนหลับ
• กลิ่นหรือคราบที่คงอยู่: กลิ่นหรือรอยที่ฝังแน่นบ่งชี้ถึงเชื้อรา ราดำ หรือแบคทีเรียที่สะสม
• อาการปวดเมื่อยที่เพิ่มมากขึ้น: การตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดหรือไม่สบายตัวบ่งชี้ถึงที่นอนที่เสื่อมสภาพ
• อาการแพ้: ฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อราในที่นอนเก่าอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
• อายุของที่นอน: เปลี่ยนที่นอนหากที่นอนมีอายุ 7-10 ปีหรือมีรอยสึกหรอมาก
• สปริงที่มีเสียงดัง: เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดในที่นอนไฮบริดเป็นสัญญาณของชิ้นส่วนที่เสียหายหรือสึกหรอ
• บริเวณที่แบนหรืออ่อนแอ: วัสดุที่ขาดความยืดหยุ่นแสดงว่าที่นอนผ่านจุดเสื่อมโทรมแล้ว
• ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง: หากการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกไม่สามารถคืนความสดชื่นได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่