เคล็ด(ไม่)ลับ กับวิธีป้องกันราบนที่นอน

เคล็ด(ไม่)ลับ กับวิธีป้องกันราบนที่นอน

“ที่นอน” เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่ขาดไม่ได้ เพราะที่นอนเป็นตัวช่วยสร้างความสุขในขณะพักผ่อน หรือนอนหลับได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปที่นอนถูกใช้งานระยะเวลานาน รวมถึงการทำความสะอาดไม่มากพอ ก็หนีไม่พ้นกับปัญหาราขึ้นบนที่นอน

ซึ่ง ราบนที่นอน เป็นปัญหากวนใจต่อผู้อยู่อาศัยไม่น้อย เพราะหากหาวิธีแก้ไขแล้วยังกำจัดราบนที่นอนออกไม่หมด นอกจากจะต้องทิ้งแล้วเสียเงินซื้อใหม่ ยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้เกิดราบนที่นอน

ราบนที่นอนเกิดได้หลายปัจจัย ได้แก่ สภาพอากาศ อย่างในช่วงหน้าฝนจะมีความชื้นสูง ยิ่งมีความชื้นสูงมากเท่าไรยิ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นได้ 

เคล็ดไม่ลับกับวิธีป้องกันราบนที่นอน_1

การมีห้องนอนแบบปิดทึบ ไม่มีหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศ แสงแดดไม่สามารถส่องผ่านเข้ามาในห้องนอนได้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดราบนที่นอน หรือแม้แต่กระทั่งคราบเหงื่อ คราบน้ำลายจากร่างกายที่สัมผัสบนที่นอนก็ทำให้เกิดราได้เช่นกัน

และหากปล่อยทิ้งไว้ไม่หาทางแก้ไขหรือป้องกันด้วยวิธีที่ถูกต้องก็จะส่งผลเสียต่อระบบผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ เพราะราสามารถสร้างสปอร์ให้กระจายออกไปในอากาศ เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก ๆ ในระยะเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ คัดจมูก ระคายเคืองตา ผื่นแพ้ ซึ่งบางคนอาจคิดว่าภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน แต่หารู้ไม่ว่า.. ราอาจจะเป็นต้นเหตุของอาการดังกล่าวก็ได้

วิธีป้องกันราบนที่นอน

เคล็ดไม่ลับกับวิธีป้องกันราบนที่นอน_2

1.หมั่นทำความสะอาดที่นอนอยู่เสมอ

นอกจากการทำความสะอาดชุดเครื่องนอนอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม หลายคนมักละเลยการทำความสะอาดที่นอน เพราะคิดว่าการนำชุดเครื่องนอนไปทำความสะอาดน่าจะเพียงพอแล้ว

ซึ่งในความเป็นจริงแม้ชุดเครื่องนอนจะผ่านการทำความสะอาด แต่รา เชื้อโรค หรือแบคทีเรียที่มองไม่เห็นยังคงอยู่ในที่นอนเหมือนเดิม นั่นเท่ากับว่าการทำความสะอาดชุดเครื่องนอนไม่ได้มีประโยชน์อะไรถ้าไม่ได้นำที่นอนไปทำความสะอาดด้วย

2.นำที่นอนไปตากแดดจัด ๆ

การนำที่นอนไปตากแดดจัด ๆ จะช่วยลดความชื้นที่สะสมอยู่ในที่นอนและฆ่าเชื้อโรค รา และแบคทีเรียได้ในระดับหนึ่ง เพราะแสงแดดจะทำให้ราไม่สามารถเจริญเติบโต หรือแพร่พันธุ์ต่อได้ แต่ถึงอย่างไรการตากแดดเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังคงต้องอาศัยวิธีการป้องกันอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

3.เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

สำหรับห้องนอนที่มีหน้าต่าง ไม่ได้เป็นห้องที่ปิดทึบ แนะนำให้หมั่นเปิดหน้าต่างให้อากาศได้ถ่ายเทอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยลดการเกิดราได้ หากเป็นห้องนอนแบบปิดอาจจะใช้วิธีการดูดฝุ่น หรือเลือกที่นอนที่มีคุณภาพมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดรา

4.หลีกเลี่ยงการตากเสื้อผ้าหรือผ้าเช็ดตัวในห้องนอน

เชื่อว่าหลายคนมักเคยทำสิ่งนี้นั่นคือ การตากเสื้อผ้า หรือผ้าเช็ดตัวไว้ในห้องนอน การตากเสื้อผ้า หรือผ้าเช็ดตัวในห้องนอน นอกจากจะทำให้เสื้อผ้าเหม็น อับชื้นแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมของราได้ ดังนั้นควรนำไปตากแดด หรือตากไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท

5.เลือกที่นอนคุณภาพดี

ผ่านมา 4 ข้อบางคนอาจไม่สะดวกที่จะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ เพราะเป็นห้องนอนแบบทึบ หรือไม่สามารถนำที่นอนไปตากแดดได้ เพราะที่นอนมีน้ำหนักมาก แนะนำว่าในตอนที่เลือกซื้อที่นอน ให้เลือกที่นอนที่มีคุณภาพดี มีคุณสมบัติป้องกันรา ไรฝุ่น แบคทีเรียจะดีที่สุด

อย่างที่นอนยางพาราของ Bedisupreme ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีคุณสมบัติที่ช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่สะสมความชื้น และยังป้องกันความชื้นซึมเข้าสู่ตัวที่นอน ซึ่งบ่งบอกได้ว่าโอกาสการเกิดราบนที่นอนเป็นไปได้ยาก หากสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ bedisupreme.com แบรนด์ผู้ผลิต และจำหน่ายที่นอนคุณภาพดีที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีที่นอนคุณภาพดีแล้ว ในระหว่างการใช้งานควรหมั่นดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันการเกิดราที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ในอนาคต